Jump to content

TTMIK ระดับ 1 ระดับ1 บทที่ 9

From Korean Wiki Project
Revision as of 15:02, 18 December 2011 by Piggyrabbit (talk | contribs)
The printable version is no longer supported and may have rendering errors. Please update your browser bookmarks and please use the default browser print function instead.

บทนี้ เราจะมาเรียนเรื่อง คำแสดงหัวข้อ และ คำแสดงประธาน ในภาษาเกาหลี หลาย ๆ ภาษารวมถึงภาษาไทยไม่มีคำแสดงหัวข้อ หรือคำแสดงประธาน อยู่ในประโยค ดังนั้นเรื่องนี้จึงอาจจะค่อนข้างใหม่สำหรับคนไทย แต่เมื่อเราเริ่มคุ้นเคยกับมัน การใช้คำแสดงเหล่านี้จะง่ายและสะดวกขึ้นเอง

คำแสดงหัวข้อ

은 [eun] / 는 [neun]

หลัก ๆ แล้ว การใช้คำแสดงหัวข้อทั้งสองนี้จะใช้เพื่อแสดงให้คนอื่นรู้ว่าเรากำลังพูดหรือจะพูดถึงอะไร คำแสดงหัวข้อจะอยู่ต่อจากคำนาม

คำที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด + -은 คำที่ลงท้ายด้วยสระ (ไม่มีตัวสะกด) + + -는

ตัวอย่าง 가방 [ga-bang] + 은 [eun] 나 [na] + 는 [neun]

หัวข้อของประโยค (คือสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึง) ซึ่งตามด้วย 은 [eun] หรือ 는 [neun] มักจะเป็นประธานของประโยค แต่ไม่เสมอไป

저 [ jeo] = ฉัน 저 + 는 [neun] = 저는 [ jeo-neun] = สำหรับฉัน 저는 학생이에요. [ jeo-neun hak-saeng-i-e-yo] = สำหรับฉัน ฉันเป็นนักเรียน / ฉันเป็นนักเรียน

จากประโยคข้างบน คำว่า 저 (ฉัน) เป็นทั้งหัวข้อ (กำลังพูดถึงตัวเอง) และ ประธานของประโยค

แต่ลักษณะพิเศษของภาษาเกาหลี สามารถดูได้จากประโยคตัวอย่างดังนี้

내일은 저는 일해요. [nae-il-eun jeo-neun il-hae-yo] =วันพรุ่งนี้ ฉันทำงาน

내일 [nae-il] แปลว่า พรุ่งนี้ ตามด้วย 은 [eun] เป็นหัวข้อ แต่ไม่ใช่ประธานของประโยค กริยา 일하다 [il-ha-da] แปลว่า ทำงาน ดังนั้น คำว่า พรุ่งนี้ จึงไม่ใช่ประธานของประโยค เพราะพรุ่งนี้ทำงานไม่ได้ แต่ "ฉัน" เป็นคนทำงาน ดังนั้น "ฉัน" จึงเป็นประธานของประโยค


คำแสดงประธาน

이 [i] / 가 [ga]

การใช้คำแสดงประธานค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับการใช้คำแสดงหัวข้อ

คำที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด + -이 คำที่ลงท้ายด้วยสระ (ไม่มีตัวสะกด) + -가

ตัวอย่าง 가방 [ga-bang] + 이 [i] 학교 [hak-gyo] + 가 [ga]

ดังนั้น โดยหลัก ๆ แล้ว คำแสดงหัวข้อ (은/는) เป็นการใส่เพื่อแสดงให้เห็นว่าหัวข้อที่เรากำลังพูดถึงในประโยคคืออะไร และ คำแสดงประธาน (이/가) เป็นการใส่เพื่อแสดงให้เห็นว่าประธานของประโยค คืออะไร แต่ ไม่ใช่แค่นั้น

มีอะไรอีกสำหรับการใช้ 은/는/이/가? (1) นอกจากคำว่า 은 [eun] / 는 [neun] จะใช้แสดงหัวข้อแล้ว คำสองคำนี้ยังก่อให้เกิดความหมายในเชิง "เกี่ยวกับ" บางอย่าง "สำหรับ" บางสิ่ง หรือแม้กระทั่ง "ไม่เหมือนกับสิ่งอื่น" หรือ "แตกต่างจากสิ่งอื่น"

(2) นอกจากคำว่า 이 [i] / 가 [ga] จะใช้ในการแสดงประธานแล้ว ยังมีความหมายในเชิง "ไม่มีอะไรนอกจากนี้" "อันอื่นไม่ใช่ แต่ คืออันนี้เท่านั้น" และในประโยคที่ซับซ้อน ยังเป็นการแสดงประธานโดยที่ไม่ต้องเน้นคำนั้นมากจนเกินไป

ลองมาดูตัวอย่างประโยคในข้อ (1). 이거 [i-geo] = อันนี้ / 사과 [sa-gwa] = แอปเปิ้ล / 예요 [ye-yo] = คือ เป็น 이거 사과예요. [i-geo sa-gwa-ye-yo] = อันนี้คือแอปเปิ้ล เราสามารถใส่ 은/는 ในประโยคนี้ และในกรณีนี้ 이거 ลงท้ายด้วยสระ คือไม่มีตัวสะกด ดังนั้นเราจะใส่คำว่า -는. 이거는 사과예요. [i-geo-NEUN sa-gwa-ye-yo] = (สิ่งอื่นไม่ใช่แอปเปิ้ล แต่) อันนี้คือแอปเปิ้ล

ลองนึกถึงบทสนทนาแบบข้างล่างนี้ 이거 커피예요. [i-geo keo-pi-ye-yo] (= สิ่งนี้คือกาแฟ) 이거는 물이에요. [i-geo-NEUN mul-i-e-yo] (= สำหรับอันนี้ คือน้ำ (อันนั้นน่ะกาแฟแต่อันนี้น่ะ น้ำ)) 이거는 오렌지주스예요. [i-geo-NEUN o-ren-ji-ju-seu-ye-yo] (= อันนี้น่ะ คือน้ำส้ม (อันนี้ก็ต่างออกไปนะ เป็นน้ำส้ม ไม่ใช่น้ำหรือกาแฟ)) 이거는 뭐예요? [i-geo-NEUN mwo-ye-yo?] (= แล้วอันนี้่ล่ะ คืออะไร)

จากตัวอย่างข้างต้น เราจะเห็นว่า 은/는 ใช้ในการเน้นแสดงหัวข้อของประโยค โดยการให้ความหมายในเชิงที่ว่า "อันนี้คือ....และสิ่งนั้นคือ...." ดังนั้น การใช้ 은/는 ในทุกประโยคที่เราพูดอาจจะดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก

ดังนั้นคนเกาหลีจึงมักจะใช้ 은/는 เฉพาะเวลาต้องการเน้นหัวข้อที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่กำลังพูดถึงอยู่ในประโยค ตัวอย่างเช่น ถ้าเราพูดว่า "วันนี้อากาศดีนะ" เราสามารถพูดได้หลายแบบในภาษาเกาหลี

1) 오늘 날씨 좋네요. [o-neul nal-ssi jot-ne-yo]

   วันนี้อากาศดีนะ

2) 오늘은 날씨 좋네요. [o-neul-EUN nal-ssi jot-ne-yo]

    วันนี้อากาศดีนะ (อากาศช่วงนี้ไม่ค่อยดี แต่วันนี้ดีนะ)

3) 오늘 날씨는 좋네요. [o-neul nal-ssi-NEUN jot-ne-yo]

   วันนี้อากาศดีนะ (วันนี้ สิ่งอื่นๆ อาจจะไม่ดี แต่อากาศดีนะ)

เห็นไหมว่า คำแสดงหัวข้อ (은/는) ในภาษาเกาหลี สามารถทำให้ประโยคมีความหมายแฝงที่หลากหลายได้

ลองดูประโยคตัวอย่างของหัวข้อที่ (2) 좋아요 [ jo-a-yo] = ดีนะ / 뭐 [mwo] = อะไร / 이/가 [i/ga] = คำแสดงประธาน

หากมีคนคนหนึ่งพูดว่า “좋아요. [ jo-a-yo]” ซึ่งแปลว่า ดีนะ หรือ ฉันชอบนะ แต่เราอาจจะไม่แน่ใจว่า "อะไร" ที่ว่าดี ดังนั้น เราก็จะถามว่า "อะไรดีเหรอ" หรือ "เธอกำลังพูดถึงอะไรน่ะ"